รีวิวซีรีส์ Loki marvel ตอนที่ 1 บน Disney+ การกลับมาอีกครั้งของวายร้ายที่หลาย ๆ คนรัก
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่แฟน Marvel รอคอยกันมากที่สุดอีกเรื่องสำหรับ ‘Loki’ เรื่องราวของ ตัวร้ายที่ทุกคนรัก ซีรีส์เรื่องนี้มีกำหนดการฉายรอบพรีเมียร์ทาง Disney+ ในวันพุธนี้ อย่างไรก็ตามมีสื่อและแฟน ๆ บางส่วนได้รับชม 2 ตอนแรกของ ‘Loki’ ก่อนแล้วและได้ออกมารีวิวความรู้สึกทางทวิตเตอร์ แม้จะมีบางส่วนไม่ชอบตอนแรก แต่ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนไปหลังดูจบตอนที่ 2 บทความนี้เราจึงขอรวมความคิดเห็นทางทวิตเตอร์มาให้สาวกโลกิได้อุ่นเครื่องเตรียมพร้อมก่อนดู ‘Loki’ ทาง Disney+ Hotstar ที่จะเปิดให้บริการในประเทศไทยของเราวันที่ 30 มิถุนายนนี้
มาถึงคิวของ Loki บ้างแล้วหลังจากที่ Marvel Studios ได้เล่าเรื่องราวใน Marvel Cinematic Universe หรือจักรวาล MCU ที่ต่อจาก Avengers: Endgame ผ่านซีรีส์ไปแล้ว 2 เรื่อง ส่วนตัวผมเองได้รับชมตอนที่ 1 ทาง Disney+ ของประเทศสิงคโปร์ไปแล้วเรียบร้อย ต้องบอกว่ารู้สึกประทับใจไม่แพ้ตอนที่ได้ดู WandaVision และ The Falcon And The Winter Soldier ตอนแรก
Marvel Studios’ Loki
คำเตือน: เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยล์เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Marvel Cinematic Universe ก่อนหน้าซีรีส์ Loki
หลังจากที่ขโมย Tesseract และหนีไปได้ใน Avengers: Endgame โลกิก็ได้ถูกจับตัวไปโดย Time Variance Authority
เรื่องย่อ Marvel Studios’ Loki
หลายคนคงได้ทราบกันดีแล้วว่าโลกินั้นถูกธานอสฆ่าตายไปแล้วใน Avengers: Infinity War และใน Avengers: Endgame ทีม Avengers ได้เดินทางย้อนเวลาไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน The Avengers เพื่อรวบรวม Infinity Stones มาชุบชีวิตของสิ่งมีชีวิตครึ่งจักรวาลที่โดนธานอสลบหายไป แต่เกิดเหตุผิดพลาดจนทำให้โลกิในไทม์ไลน์ที่ทีม Avengers ย้อนเวลาไปขโมย Tesseract และหนีไปได้ (จากเดิมที่จะต้องถูกจับและเกิดเหตุการณ์ใน Thor: The Dark World, Thor: Ragnarok และตายใน Avengers: Infinity War) ซึ่งในซีรีส์ Loki นั้นก็ได้เล่าเรื่องราวต่อจากฉากที่โลกิพ่ายแพ้ ถูกจับ และหนีไปได้ตามที่เห็นใน Avengers: Endgame เลย และนี่ก็คือความรู้สึกหลังจากที่ได้รับชมตอนที่ 1 ที่มีชื่อว่า Glorious Purpose ครับ
Loki – รีวิวซีรีส์ Loki ตอนที่ 1 บน Disney+ การกลับมาอีกครั้งของวายร้ายที่หลาย ๆ คนรัก (ไม่มีสปอยล์)
ความรู้สึกหลังจากดู Loki ตอนที่ 1 Glorious Purpose
ชอบที่มีการย้อนให้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลกิที่เคยเกิดขึ้นใน MCU หลาย ๆ จุด ทำให้รู้สึกคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาของจักรวาลนี้
ชอบความต่อเนื่องในการดำเนินเรื่องจาก Avengers: Endgame
มีการใช้ฟุตเทจที่ไม่เคยเห็นมาก่อนใน Avengers: Endgame นิดหน่อย
ใน WandaVision และ The Falcon And The Winter Soldier พยายามเลี่ยงที่จะให้เห็นตัวละครหลักจากภาพยนตร์ แต่ใน Loki นั้นเอามาให้เห็นกันแบบชัด ๆ เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นฟุตเทจที่เคยเห็นมาแล้ว แต่ในซีรีส์ก็จับมานำเสนอได้แปลกใหม่ดีและทำให้คิดถึงตัวละครหลาย ๆ ตัว
ตัวละคร Mobius M. Mobius ของ Owen Wilson มีความน่าสนใจ และเคมีของ Tom Hiddleston กับ Owen Wilson เข้ากันดีมาก
ในบางจังหวะเล่าเรื่องยืดยาวเกินความจำเป็น แต่บางจังหวะก็ไวมากจนไม่คิดว่าจะเล่าในตอนที่ 1 รู้สึกได้ว่าซีรีส์จะรีบเดินเรื่องที่เป็นแกนหลักในตอนต่อไป
ก่อนดูมีความสงสัยว่าซีรีส์จะเล่นกับพฤติกรรมของโลกิในช่วงก่อนที่จะกลับตัวกลับใจยังไง ซึ่งในตอนที่ 1 ก็อธิบายตรงจุดนี้ออกมาได้ดีเลย
เสียดายที่บางจุดที่ดูอลังการในตัวอย่าง กลับกลายเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ในซีรีส์
โลกิ กับ Mobius M. Mobius
สรุปโดยภาพรวมคือตอนแรกของ Marvel Studios’ Loki ทำให้โลกิกลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง มีความลึกลับ น่าค้นหา น่าติดตามไม่แพ้ซีรีส์จาก Marvel Studios เรื่องก่อนหน้า
เปิดให้รับชมตอนแรกแล้ววันนี้ทาง Disney+ สำหรับประเทศไทยจะสามารถรับชมตอนที่ 1-4 ทาง Disney+ Hotstar ได้เลยในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ และรับชมตอนต่อไปทุกวันพุธจนกว่าจะถึงตอนจบ สำหรับใครที่จะรับชมนั้นผมแนะนำให้ดู Marvel Studios: Legends ตอนที่ 7. Loki และตอนที่ 8. The Tesseract เพื่อทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาของโลกิและความเป็นมาของอุปกรณ์วาร์ปอย่าง Tesseract ครับ
‘Loki’ สุดยอดมาก ทอม ฮิดเดิลสตัน (Tom Hiddleston) กลับมารับบทเทพแห่งความชั่วร้ายได้อย่างยอดเยี่ยม ความเชื่อมโยงภายในซีรีส์นั้นน่าทึ่งและแฟน ๆ จะต้องประทับใจกับความใส่ใจในทุกรายละเอียด มาร์เวลหาทางขยายจักรวาล MCU ได้ฉลาดและไม่เหมือนใครสุด ๆ
ผมได้ดู ‘Loki’ สองตอนแรกแล้วและผมก็รักมันสุด ๆ ไปเลย มันคือรายการนักสืบท่องเวลาที่ช่วยเติมรากฐานให้กับจักรวาล MCU ในขณะเดียวกันก็บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนและการเผชิญหน้ากับความจริงที่น่ารังเกียจของเราเอง มิตรภาพแบบโบรแมนซ์ระหว่างฮิดเดิลสตันและโอเวน วิลสัน (Owen Wilson) คือส่วนที่ผมชอบที่สุด
ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเริ่มสรรเสริญ ‘Loki’ จากตรงไหนดี เพราะฉะนั้นผมจะบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้เปิดตัวได้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาซีรีส์ที่ Disney+ มีในตอนนี้เลยล่ะ การเขียนบทและกำกับอยู่เหนือระดับไปอีกขั้น ขอบคุณ เคท เฮอร์รอน (Kate Herron – ผู้กำกับและเขียนบท), ไมเคิล วอลดรอน (Michael Waldron – นักเขียนบท) และฮิดเดิลสตันที่ยกระดับ MCU ไปอีกขั้น
‘Loki’ ตอนแรกกลายเป็นตอนที่ผมชอบที่สุดในบรรดาซีรีส์มาร์เวลไปแล้ว ฮิดเดิลสตันรับบทโลกิได้ดีเกินไป เขาหยิบเอาบุคลิกของโลกิปี 2012 ออกมาแสดงได้อย่างเนียน เขาเจ๋งมาก ช่วงเริ่มต้นมาพร้อมรายละเอียดที่แฟน MCU ต้องว้าว ผมชอบตอนเริ่มเรื่องเอามาก ๆ ซีรีส์คุณภาพสุด ๆ
การแสดงใน ‘Loki’ มีความโดดเด่นมาก มาร์เวลยังคงเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาลของพวกเขาเสมอ และซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่เหมือนอะไรที่พวกเขาเคยทำมาก่อน การมุ่งเน้นแกนหลักของเรื่องไปที่เทพแห่งความชั่วร้ายทำให้เราได้เห็นตัวตน ความหวาดกลัว ความรู้สึกไม่ปลอดภัย และเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของเขาได้ดีที่สุด และวิลสันก็สุดยอดไปเลยด้วย
‘Loki’ มีความคาดเดาไม่ได้ในแบบที่ฉันคิดว่าซีรีส์ MCU ใน Disney+ เรื่องอื่น ๆ ยังขาดจุดนี้ ตัวซีรีส์เผยปมใหญ่ออกมาแบบไม่เสียเวลา ทำให้เหลือเวลาเล่าเรื่องอีกเยอะมากและแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป พวกเราทุกคนพร้อมสำหรับการเดินทางอันยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมไปกับซีรีส์เรื่องนี้แล้ว
‘Loki’ เริ่มต้นได้ไม่ดีเท่าไรในตอนแรก จังหวะและบทไม่ดีแต่ก็จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพราะต้องมีการแนะนำโลกของ TVA (Time Variance Authority) ส่วนตอนที่ 2 ก็เริ่มต้นจากจุดนั้น เป็นการปูพื้นให้กับสิ่งยาก ๆ ที่จะตามมาตลอดทั้งซีซัน
พระเจ้า ‘Loki’ เยี่ยมไปเลย 2 ตอนแรกพลิกไปมา ไม่ซ้ำเดิม และจริงใจสุด ๆ แถมการแคสต์นักแสดงก็ยอดเยี่ยม ทุกอย่างให้ความรู้สึกสดใหม่แต่ในขณะเดียวกันก็ให้เกียรติองค์ประกอบมากมายที่มาจากการ์ตูน ทำให้ฉันคิดถึงสมัย Bronze Age comics
ผมได้ดู ‘Loki’ สองตอนแรกแล้ว และถ้าคุณชอบปรากฏการณ์ทางโซเชียลมีเดียของ ‘WandaVision’ คุณก็พร้อมสำหรับเรื่องนี้แล้วล่ะ เมื่อคุณตีโฮมรันได้มากที่สุดเท่าที่ MCU ทำได้ คุณจะเล่นใหญ่ได้มากกว่าเดิม และนี่คือสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็น ‘Loki’ ให้ความรู้สึกหนักแน่นแต่สเกลของเรื่องนั้นใหญ่มาก!
ได้ดู ‘Loki’ สองตอนแรกแล้วและก็รู้สึกฟินจริง ๆ ตอนแรกพอใช้ได้แต่ยืดเยื้อตามมาด้วยตอนสองสุดอัศจรรย์ ภายนอกของเรื่องคือซีรีส์อาชญากรรมระทึกขวัญที่น่าสนใจ แต่ก็ยังพาเราไปสำรวจจิตใจของโลกิได้อย่างยอดเยี่ยม
‘Loki’ เปิดตัวได้อย่างสวยงามแบบไม่น่าเชื่อ ด้วยอารมณ์ขันระดับแนวหน้าของมาร์เวล ผสมผสานการข้ามเวลาและเรื่องราวที่มีจิตใจอย่างน่าแปลกใจ ฮิดเดิลสตันและวิลสันเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยม ส่วน Miss Minutes ก็คือซูเปอร์สตาร์ ใครจะรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อ แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องทำให้เกิดบางอย่างที่พิเศษขึ้นมาแล้ว
ในขณะที่ ‘WandaVision’ เหมือนกล่องปริศนา ‘The Falcon and the Winter Soldier’ เกี่ยวกับเชื้อชาติและมรดกถึงคนรุ่นหลัง ผมคิดว่า ‘Loki’ ถูกออกแบบมาให้เป็นซีรีส์มาร์เวลที่บันเทิงที่สุดอย่างแท้จริง อย่างน้อยถ้าอ้างอิงจาก 2 ตอนแรก มันก็คือซีรีส์แอกชันคอมเมดี้ทะเล้น ๆ นี่เอง…
ผมดู ‘Loki’ สองตอนแรกแล้วและนี่คือซีรีส์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันตลก ฉลาดสุด ๆ และนำ MCU มาสู่การเล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นักแสดงยอดเยี่ยม ฮิดเดิลสตันและวิลสันเข้ากันได้อย่างมหัศจรรย์
เรื่องย่อ
Loki เป็น Original Series ของ Disney สามารถรับชมผ่าน Disney+ Hotstar ได้เลย เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจาก Avengers ภาคแรก โลกิหนีการจับกุมไปได้ แต่เจอหน่วยงามลับ TVA มาจับกุมเขาอีกทีแทน
Loki สนุกไหม
ก่อนจะเริ่มดูต้องบอกว่าแม้เรื่องจะต่อจาก Avengers ภาคแรก แต่มีการผูกเรื่องราวจากหนัง Thor ทั้ง 3 ภาค และเรื่องราวใน Avengers จนถึงภาค Endgame เลย ดังนั้นก่อนเริ่มดูแนะนำดูหนังให้ครบก่อนครับ
เรื่องราวในซีรีส์ Loki เปิดมาได้น่าสนใจมากๆ ครับ โดยดึงตัวเองออกจากเรื่องราวหลักของ MCU อย่างชัดเจน เหมือนสร้างจักรวาลใหม่ที่มีความน่าสนใจมากๆ ขึ้นมา ผสานกับคาแรกเตอร์ของโลกิยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีกขั้น ให้อารมณ์เหมือนหนังตำรวจจับโจรที่ต้องชิงไหวชิงพริบกัน แต่ซีรีส์แอบทิ้งรอยแผลไว้ตั้งแต่ 2 ตอนแรก ที่มีช่วงเหมือนพยายามเซอร์วิสแฟนหนังอย่างเดียวจนเนื้อเรื่องไม่เดิน แต่มันยังกลบได้ด้วยเนื้อเรื่องส่วนอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจมากๆ แต่พอตอน 3 บาดแผลก็ถูกเปิดแบบเหวอะหวะเลย กลายเป็นตอนที่น่าเบื่อมากๆ ด้วยบทพูดไม่มีจุดหมายและฉากแอคชันที่ไม่กระตุ้นอดรีนาลีนของผู้ชม และมาตายเต็มตัวในตอนที่ 4 ที่เนื้อเรื่องกลับเข้าสู่สูตรตายตัวของ Marvel ที่เราสามารถเดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แถมด้วยฉากแอคชั่นตอนท้ายที่ทำออกมาได้แย่มากๆ ตัดสลับมุมกล้องมั่วซั่วจนเราไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เลยว่าใครกำลังสู้กับใคร และใครเป็นต่อ ซึ่งซีรีส์เหลืออีก 2 ตอนให้แก้ตัวก่อนจะจบซีซั่นครับ